Search This Blog

Tuesday, March 23, 2010

"ไม่เอาบิ๊กซี"

จังหวัดกำแพงเพชรเป็นเมืองที่อาจจะเรียกได้ว่าเกือบจะปิดมาหลายสิบปี  ในระยะหลังมามีการเติบโตทางด้านการท่องเที่ยวทำให้เกิดโรงแรม ร้านอาหาร รีสอร์ท จำนวนมาก มีนักท่องเที่ยว ผ่านมาพักค้าง และเที่ยวชมโบราณสถาน อุทยานประวัติศาสตร์ (Historical Park) อายุกว่า 700 ปี ที่อดีตเคยรุ่งเรืองในสมัยอาณาจักรสุโขทัย อีกทั้งยังมีสถานท่องเที่ยวที่เป็นธรรมชาติ อาทิเช่น อทุยานแห่งชาติคลองวังเจ้า อุทยานแห่งชาติคลองลาน ซึ่งมีที่พักและน้ำตกคลองลานที่มีชื่อเสียง 

ด้วยเหตุที่มีผู้คนเข้ามาเยือนมากขึ้น ทำให้ความต้องการในการค้าขายและธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้องได้ขยายตัวและตอบรับการเติบโตทางการท่องเที่ยว การขยายตัวทางการค้าและธุรกิจที่เติบโตขึ้น ทำให้เป็นเป้าหมายสำหรับธุรกิจการค้าปลีกและการค้าส่งขนาดใหญ่ ที่ต้องการเข้ามาลงทุนในจังหวัดกำแพงเพชร  พ่อค้าและนักธุรกิจท้องถิ่นเมื่อรู้ข่าวการจะเข้ามาดำเนินธุรกิจของบริษัทใหญ่อย่างเช่น Macro, Lotus, หรือ  Big C  เริ่มไหวตัวและต่อต้านการตีหัวเข้าบ้านของบริษัทยักษ์ใหญ่ข้ามชาติ(Multi-National Corporations) 

ความคิดเห็นของชาวเมืองแตกแยกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนการเข้ามาของบิ๊กซี เนื่องจากต้องการให้เกิดการแข่งขัน มีภาษีเข้ามาในท้องถิ่น สนับสนุนการมีงานทำของท้องถิ่น  กระแสเงินสดเคลื่อนไหวสะพัดในท้องถิ่น และจะเป็นสิ่งชักนำเอาความเจริญด้านอื่นๆ เข้ามา และดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาใช้ชีวิตในเมือง ส่วนอีกฝ่ายหนึ่งต่อต้านการเข้ามาของบริษัทขายปลีกขนาดใหญ่ทุกรูปแบบ ด้วยเหตผลที่จะเป็นตัวการทำลายเศรษฐกิจท้องถิ่น ร้านค้าปลีกรายย่อยของพ่อค้าและนักธุรกิจก็จะขายไม่ได้  นอกจากนั้น ยังจะทำให้วัฒนธรรมความเป็นอยู่ของคนในเมืองที่เคยอยู่อย่างเรียบง่ายต้องเปลี่ยนไป วัฒนธรรมต่างชาติที่มาจากสินค้าและบริการต่างๆ ถูกทำลายและวิถีชีวิตของผู้คนก็จะเปลี่ยนแปลงไปจนถึงสังคมเสื่อมโทรม อาชญากรรมจะเพิ่มมากขึ้น เงินที่คิดว่าจะเป็นรายได้ของท้องถิ่นจะถูกนำกลับไปให้กับบริษัทแม่ของบิ๊กซี  คนงานที่คิดว่าจะเป็นคนท้องถิ่นกลับเป็นพนักงานที่มาจากต่างจังหวัด  ฯ ล ฯ

วันที่ 24 มีนาคมชาวบ้านและแกนนำจำนวนมากกว่า 500 คน เดินทางมาเรียกร้องหน้าเทศบาลเมืองกำแพงเพชรเพื่อคัดค้านไม่ให้เทศบาลอนุญาตให้บิ๊กซีมาก่อสร้างในเขตเทศบาล  สำหรับการพิจารณาอนุญาตให้บิ๊กซีเข้ามาตั้งได้เกี่ยวข้องกับหลายฝ่าย ผู้ว่าราชการจังหวัดจึงให้มีการทำประชาพิจารณ์เนื่องจากเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชนจำนวนมาก  ซึ่งเทศบาลเมืองกำแพงเพชรจะจัดให้มีการทำประชาพิจารณ์ในวันอาทิตย์ที่ 28 มีนาคม ณ หอประชุม มหาวิทยาลัยราชภัฎกำแพงเพชร  

3 comments:

  1. การแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง มีหลายวิธี มักจะเป็นการเจรจาต่อรอง ของผู้มีส่วนได้เสีย และไกล่เกลี่ยประสานประโยชน์ให้ลงตัว ที่สำคัญการเจรจาต้องประกอบด้วยผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย และมีคนกลางที่เป็นที่ยอมรับ และต้องไม่ตั้งเงื่อนไขที่เป็น Dead Lock

    ReplyDelete
  2. จ้างมาต่อต้านหัวละสองร้อย โครตทุเรศเลย ผมอยู่กทม ผมยังรู้เลยเพราะแม่ผมเป็นผู้นำชมชนอยุ่ที่นั่น ลองคิดแบบชาวบ้านดูนะ ห้างใหญ่มาสร้างมีข้อดีและข้อเสีย ข้อดี คือมีการจ้างงาน คนมีงานทำ กับความเจริญ ผู้บริโภคมีตัวเลือกที่หลากหลาย ไม่โดนเอาเปรียบจากแม่ค้าพ่อค้า ข้อเสีย แม่ค้าพ่อค้ามีรายได้ที่ลดลง เราต้องคิดว่าเมืองเราเป็นประชาธิปไตย เพราะประชาชนทุกคนมีส่วนได้ส่วนเสียหมด จะเอาแต่ตัวเองไม่ได้ การทำประชาวิจารณ์นะถูกต้องแล้ว ไม่ใช่เอะอะไรก็ประท้วง ไม่ยอมรับประชาวิจารณ์ (นิสัยเสื้อเหลือง เสื้อแดง แต่เสื้อเหลืองจะเยอะกว่านะคราวนี้เพราะคนในตลาดศูนย์เสื้อเหลืองตรึม) เพราะจังหวัดอื่นเค้าก็มีกันพอมีคนถามถึงจังหวัดกำแพงเพชร ถามว่ามีห้างไรบ้างที่กำแพงพอบอกว่าไม่มีเค้าพูดกลับมาว่า จังหวัดอะไรโครตบ้านนอกเลยห้างก็ไม่มี

    ReplyDelete
  3. แด่คุณหมูไม่มีสมอง

    ฉันก็เป็นคนที่ไปร่วมด้วย รายได้ต่อเดือนเกือบล้าน
    ถามว่าใครมีปัญญามาจ้าง อย่าป้ายสีคนที่เขาไปเพราะเป็นคนไทย
    ที่รักในความพอเพียงไม่ชอบเห็นคนไทยด้วยกันถูกรังแกโดยทุนนิยม
    ไม่ใช่เขาไม่รับประชาพิจารณ์แต่นายกเทศมนตรีปกปิดข้อมูลแหกตา
    ชาวบ้าน อนุญาติกันก่อนแล้วจะมาทำประชาพิจารณ์ตามหลังเพราะโดนร้องเรียน หาข้อมูลก่อนแล้วค่อยวิจารณ์

    ReplyDelete